เต่าบินคาเฟ่ 1 ตร.ม. น้องตู้บุญเติมที่ Disrupt เครื่องดื่มตู้กดมาเสิร์ฟกาแฟบดสดทุกแก้ว

เต่าบินคาเฟ่ เครื่องดื่มตู้กดมาเสิร์ฟกาแฟบดสดทุกแก้ว

เมื่อพูดถึงตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติเชื่อว่าภาพแรกที่ผุดเข้ามาในหัวของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่นใช่ไหมครับ เพราะแดนปลาดิบมีตู้นู่นนี่นั่นให้กดเต็มไปหมดทั้งของกินของใช้ของเล่นของที่ระลึกและอีกสารพัดของ ที่ตั้งรอให้เราหยอดเหรียญอยู่ทุกหัวมุมถนนยังไม่พอ แต่ยังไปปรากฏตัวทั้งในการ์ตูนและภาพยนตร์ จนกลายเป็นของคู่กันไปแล้ว

สำหรับประเทศไทยเองแม้จะไม่มีบริการหลากหลายขนาดนั้นแต่ก็ต้องบอกว่าตู้อัตโนมัติก็ได้รับความนิยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โอเคเราอาจจะไม่ได้มีตู้กดน้ำทุกที่แต่ก็มีให้เห็นทุกห้างฯ หรือเดี๋ยวนี้แทบจะทุกคอนโดมิเนียมและสำนักงานด้วยซ้ำไป

อีกทั้งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาคงไม่มีใครไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อ “บุญเติม” ตู้สีส้มที่ประจำการหน้าร้านสะดวกซื้อและร้านขายของชำ ที่พึ่งยามยากของประชาชนที่เงินในโทรศัพท์หมด แต่มีนัดต้องโทรหาแฟนในคืนนี้หรือบางครั้งก็เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ

ซึ่งวันนี้ ‘เต่าบิน’ น้องใหม่ในเครือบริษัทผู้ปลุกปั้นบุญเติมให้โด่งดัง กำลังจะปฏิวัติวงการตู้เครื่องดื่มอัตโนมัติให้พลิกโฉมหน้าไปโดยสิ้นเชิง เพราะมีน้ำขายครบตามที่คุณคาดหวัง แต่ส่วนที่ยังคิดไปไม่ถึงแบบน้ำกัญชา เวย์โปรตีน หรือกาแฟสดบดใหม่ทุกแก้วจากเอธิโอเปียก็ดันมีให้เลือกกับเขาด้วย

ไม่ใช่นะครับ สิ่งที่กล่าวไปข้างต้นไม่ใช่การบลัฟเหมือนตอนเกริ่นเข้าเรื่องแบบที่คุณเห็นโฆษณาทั่วไป เพราะเราไม่ได้รับสปอนเซอร์เลยสักบาทเดียว แต่ที่เอามาเล่าสู่กันฟังเพราะเห็นว่าเต่าบินมีศักยภาพขนาดนั้นจริงๆ

จาก บุญเติม ถึง เต่าบิน

แต่เดิมบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด มีตู้บุญเติมเป็นผู้นำทัพที่เริ่มจากเป็นผู้ให้บริการเติมเงินมือถือก่อนจะขยายจักรวาลบริการไปหลากหลายทั้งขายซิมโทรศัพท์ เติมเกมออนไลน์ จ่ายค่าสาธารณูปโภค ซื้อประกัน บริจาคเงินและอีกเยอะที่แปลว่าเยอะจริงๆ ฟอร์ทยังมีบริการอีกหลายอย่าง ทั้งตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ ตู้กดกาแฟ หรือตู้จำหน่ายสินค้าทั้งขนมถุงหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

เรียกว่าถ้าพูดถึงตู้หยอดเหรียญหรือตู้สินค้าอัตโนมัติก็ไว้ใจฟอร์ทได้เลย เพราะคลุกคลีกับธุรกิจนี้มานานมาก แต่กับเต่าบินถือเป็นก้าวที่ล้ำกว่าตู้ที่ผ่านๆ มา เพราะมีความสามารถทำอะไรก็ตามที่เจ้าอื่นทำไม่ได้เต็มไปหมด

“ตู้เต่าบินเป็นเทคโนโลยีที่ค้นคว้าและผลิตจากฝีมือคนไทยทั้งหมด ไม่ได้นำเข้ามาจากประเทศไหน และไม่ได้ก๊อปใครมาทั้งสิ้น” ตอง-วทันยา อมตานนท์ Business Development Executive เท้าความว่าแต่เดิมบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด เจ้าของเต่าบินก็เริ่มต้นจากตู้กดน้ำกระป๋อง แล้วก็ทำตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติด้วย แต่ทีนี้เคยใช้ตู้จากจีนแผ่นดินใหญ่แล้วเจอสารพันปัญหาทางเทคนิคเต็มไปหมด”

“เครื่องจากจีนที่เคยใช้มีปัญหามากมีทั้งผงติด ผงตัน ดูแลก็ลำบาก ก็เลยกลับมานั่งคิดกันว่าทำไมไม่ลองพัฒนาตู้ขึ้นมาเอง เพราะทุกเครื่องที่มีอยู่ในตลาด ณ ตอนนั้น ไม่เพียงพอจะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ความพยายามที่จะแตกต่างจากคนอื่นคือจุดเริ่มต้นของเครื่องนี้ 

“อีกอย่างเราเห็น Demand จากคาเฟ่ที่ผุดขึ้นมาเยอะมาก แต่วิถีชีวิตของคนไม่ได้แปรผันไปตามเวลาที่คาเฟ่เปิดให้บริการ เราไม่ได้เริ่มวันตอนเก้าโมงเช้า แล้วปิดสวิตช์ตอนหกโมงเย็น แต่ใช้ชีวิตกันยี่สิบสี่ชั่วโมง”

นอกจากตลาดจะต้องการเครื่องดื่มที่มีความพิเศษและหลากหลายมากขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นกันมานานและเห็นได้ชัดขึ้นทุกวัน คือธุรกิจ Vending Machine กำลังโตอย่างต่อเนื่อง 

คุณตองบอกว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเร่งรีบขึ้นอยู่ตลอด แต่ถึงจะอยากได้ความพิเศษแค่ไหน ถ้าต้องแลกกับการเสียเวลาออกไปตามหาอาจจะไม่คุ้มค่ากัน ดังนั้นการที่ผลิตภัณฑ์อะไรก็ตามแต่อยู่ระหว่างทางของผู้บริโภค ไม่ว่าจะทางไปทำงาน ไปโรงเรียน ไปวิ่ง กลับบ้าน หรือไปไหนก็ตามแต่ ถือว่าได้เปรียบมาก

ก่อนจะกลายร่างมาเป็นเต่าบิน ฟอร์ท เวนดิ้ง เคยส่ง ‘เติมเต็ม Café’ ออกมาแล้ว แต่ก็ปฏิบัติหน้าที่ชงเครื่องดื่มให้ทุกคนได้ราวครึ่งปีเท่านั้น 

ทั้งที่ตลาดให้ผลการตอบรับที่ดี แต่ก็มีปัญหาทางเทคนิคตามมาอย่างที่บอกไปข้างต้น แต่ข้อดีของการคิดค้นตู้ขึ้นมาใหม่ และแปลงร่างจากเติมเต็มมาเป็นเต่าบิน นอกจากจะอาศัยเวลานี้ปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยขึ้น ยังสามารถฉีกกฎของการชงเครื่องดื่มอัตโนมัติให้ไปได้ไกลกว่าเพื่อน 

“วิศวกรของเราทำงานกันเกือบสองปีกว่าจะออกมาเป็นเต่าบิน สำหรับตองที่คลุกคลีกับตลาดตู้หยอดเหรียญมาตลอด บอกได้เลยว่า เต่าบินน่าจะเป็นตู้เครื่องดื่มที่ล้ำที่สุดในโลกก็ว่าได้ 

“ข้างในตู้เราจะมี Moving Part เยอะมาก ทั้งการจ่ายเครื่องดื่ม ไซรัป แก้ว หลอด หรือฝา ยังไม่นับอุปกรณ์สำหรับชงกาแฟที่เริ่มกันตั้งแต่บดเมล็ด ซึ่งทั้งหมดจะถูกควบคุมด้วยหุ่นยนต์ ทุกอย่างถูกออกแบบและคิดคำนวณมาแล้วทั้งหมดตั้งแต่น้ำหนักของกาแฟว่าใช้กี่กรัม แรงดันในการสกัด ช่วงเวลาในการไหลหรืออุณหภูมิของน้ำ ทุกแก้วรับรองได้ว่ามีคุณภาพเหมือนกัน

“เราต้องการที่จะตัดปัญหาของการเจ๊ง คงจะสังเกตใช่ไหมคะว่าคาเฟ่ที่ผุดขึ้นมาแทบจะแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ไปไม่รอด เราต้องการลดปัจจัยที่จะทำให้เกิดปัญหานั้นให้ได้มากที่สุด ออกแบบว่าทำอย่างไรให้ค่าบำรุงรักษาต่ำ หรือมีอัลกอริทึมช่วยบอกว่าต้องเติมของเมื่อไหร่จึงจะคุ้มค่า”

คุณตองบอกว่า ธุรกิจนี้เหมือนกับการ Build on Top เพราะมีการทดลองตลาดและทำการวิจัยในตัวไปเรียบร้อยผ่านเครื่องนำเข้าก่อนหน้านี้ว่ายังไงขายได้แน่ ดังนั้นคำถามถัดไปคือแล้วจะขายลูกค้ากลุ่มไหนหรือทำยังไงให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด 

น้ำกัญชา กาแฟเอธิโอเปีย สตรอว์เบอร์รีโปรตีน และอีกกว่า 80 เมนู เอาแค่ที่ยกมาก็คิดว่าเดาได้ยากแล้วว่ากลุ่มเป้าหมายของเต่าบินเป็นใครกันแน่ เพราะนอกจากเครื่องดื่มที่โดดเด่นออกมาอะไรที่ควรมีเช่นโกโก้ ชาเย็น แดงมะนาว กาแฟร้อนก็มีให้ดื่มกันครบ 

“กลุ่มเป้าหมายตอนแรกจะเป็นหนุ่มสาว นักเรียน หรือพนักงานออฟฟิศ แพลนเดิมของเต่าบินคือไปตั้งตามอาคารสำนักงาน แต่พอเริ่มล็อกดาวน์ก็เลยเปลี่ยนไปตั้งที่คอนโดฯ กับโรงพยาบาล ตอนนี้วางไปได้แล้วประมาณร้อยห้าสิบตู้ ซึ่งกลายเป็นว่ามีคนทุกกลุ่มมาใช้งานและผลตอบรับดีมากกก ที่ศิริราชเราขายได้สองร้อยแก้วต่อวันเป็นตัวเลขที่โอเคมาก 

“ส่วนเรื่องเมนูเราคิดว่าทำอย่างไรให้พื้นที่ในตู้ที่มีจำกัดสร้างความพอใจให้ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม เพราะทุกจุดที่เราไปวางไม่ได้มีลูกค้าแค่กลุ่มเดียว คอนโดมิเนียมมีตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงอาม่าอากง 

“อีกอย่างเราเห็นเทรนด์ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เพราะฉะนั้นก็เลยอยากทำตู้ที่ทุกคนดื่มได้ ไม่มีน้ำตาลเลยหรือจะเปลี่ยนเป็นหญ้าหวานแทนก็ได้ จะใส่คอลลาเจน เพิ่มวิตามินซี หรือสำหรับคนที่ออกกำลังกายเราก็มีโปรตีนเชกให้”

นอกจากความหวาน ตู้เต่าบินยังให้เราเลือกได้เช่นกันว่าจะรับหลอดกับฝาหรือเปล่า และตอนจ่ายเงินก็มีทั้งระบบคิวอาร์โค้ด เงินสด และสะสมแต้มด้วย 

หากใครมีตู้เต่าบินอยู่ใกล้บ้านอยากชวนไปลองกดดูเหมือนกันครับ เพราะบางเมนูก็แปลกชนิดที่ว่าไม่คิดมาก่อนว่าจะเจอในตู้กดน้ำอัตโนมัติที่ปกติก็ขายแต่เครื่องดื่มที่คุ้นเคย เพราะกาแฟผสมลิ้นจี่ กาแฟผสมกัญชา เวย์โปรตีนรสชานมไต้หวัน หรือเมนูยอดฮิตตามคาเฟ่อย่างเดอร์ตี้ก็มาอยู่ในตู้กับเขาด้วย 

สำหรับการปรุงเครื่องดื่มทั่วไปทีมเต่าบินจะเริ่มจากการลองชิมและให้ฟีดแบ็กกันเองก่อนที่จะนำไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาเช่นกาแฟก็ได้บาริสต้ามือรางวัลมาช่วยปรุง จากนั้นจึงนำออกไปสู่ตลาดมีการชวนมาชิมแล้วถามฟีดแบ็กบ้าง และมี Data จากแต่ละตู้เป็นเครื่องยืนยันอีกต่อหนึ่ง

“เต่าบินเป็นเครื่องที่ออนไลน์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างจึงมีข้อมูลเก็บไว้หมด อะไรที่ขายไม่ดีหรือมีรีเทิร์นเยอะ ก็พอจะแปรผลออกมาได้แล้วว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดไป ต้องนำกลับมาปรับปรุง แต่อะไรที่ขายไม่ดีแล้วคนไม่กลับมาซื้อก็ต้องเปลี่ยนเมนูกันตามระเบียบ”

ช่วงก่อนจะล็อกดาวน์กันหลายรอบผมมักจะเห็นเพื่อนสาย Café Hopper เปรียบเปรยรสชาติของกาแฟที่ตัวเองไม่ถูกใจในเฟซบุ๊กอย่างน่าสยดสยอง ชนิดถ้าเจ้าของร้านผ่านมาเห็นอาจจะใจสลายก็เป็นได้ นอกจากเสียงบ่นเขายังบอกว่าคงไม่กลับมาที่ร้านนี้อีก เพราะเทสต์เรื่องรสชาติไม่ตรงกันแถมถ่ายรูปแค่ครั้งเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว

หน้าตาจะทำให้คนอยากลอง แต่รสชาติจะทำให้กลับมาซื้อซ้ำ เป็นหลักการที่ผมมองว่าสมเหตุสมผลมากในธุรกิจประเภทของกิน โชคดีมากที่แบรนด์ที่เราเลือกสัมภาษณ์อย่างเต่าบินก็คิดแบบนี้เหมือนกัน เพราะมีคติประจำใจในการเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดก่อน แล้วการคิดราคาจะตามมาทีหลังว่าจะตั้งได้ต่ำแค่ไหนโดยที่ไม่ขาดทุน

“ตัวตนของเต่าบิน คือเราให้ความสำคัญกับรสชาติมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าคุณสั่งเมนูกาแฟจะต้องรอขั้นต่ำเก้าสิบวินาที ซึ่งความจริงเราทำให้เร็วกว่านั้นได้แต่ความอร่อยจะสู้ไม่ได้ แล้วอันดับสองถึงจะเป็นความสะดวกสบายที่หาดื่มได้ใกล้ตัว”

ราคาคือจุดเด่นอีกข้อหนึ่งที่น่าจะทำให้เต่าบินบินได้ไกล เพราะอยู่ในระดับที่จับต้องได้มากๆ เริ่มต้นแค่ 15 บาท หรือเครื่องดื่มระดับท็อปที่สุดคือกาแฟที่ใช้เมล็ดเกรดพรีเมียมก็ราคาประมาณครึ่งร้อยเท่านั้น 

“ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้อยากให้ทุกคนทานได้ทุกวัน เราอยากเป็นทุกวันของทุกคนให้ได้”

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้และยังไม่มีตู้เต่าบินอยู่ใกล้บ้านก็อาจจะไม่ต้องรอนานมาก เพราะเต่าบินกำลังขยายช่องทางการจัดจำหน่ายออกไปเรื่อยๆ โดยหวังจะตามรอยรุ่นพี่อย่างบุญเติมที่มีให้กดให้เติมกันง่ายๆ ทั่วประเทศ และมีให้เข้าไปลงชื่อในเว็บไซต์ www.tao-bin.com ด้วยว่าคุณอยากจะให้เต่าบินไปตั้งตรงไหน 

“ตู้ที่ออกมาตอนนี้เราทำเองแทบทั้งหมด เพื่อสร้างความเสถียรก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจึงจะขยายพื้นที่จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอื่น คาดการณ์ไว้ว่าจะตั้งให้ได้อย่างน้อยหนึ่งหมื่นตู้ เป็นตัวเลขเดียวกับที่บุญเติมตั้งใจไว้ตอนแรกแต่ตอนนี้ขึ้นหลักแสนไปแล้ว ก็หวังว่าเต่าบินจะไปถึงจุดนั้นได้เหมือนกัน 

“หลังจากนี้ก็เล็งไว้ที่ยิม โรงเรียน หมู่บ้าน สำนักงาน หรือสถานที่ราชการต่างๆ ที่มีร่มเงา และมีคนพลุกพล่าน จะไม่ได้อยู่ทุกที่เหมือนบุญเติมเพราะต้นทุนสูงกว่ากันมาก ส่วนคำถามว่าหลังจากโควิดถ้าคนกลับไปทำงานแล้วจะทำอย่างไร เราก็แค่ยกตู้จากคอนโดฯ ไปที่ออฟฟิศแค่นั้นเอง” 

เต่าบินตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดให้บริการมากถึง 20,000 ตู้ ภายใน 3 ปี ผ่านโมเดลธุรกิจที่คล้ายกับบุญเติมคือ มอบตู้ไปยังตัวแทนจำหน่ายเลยโดยไม่ต้องเสียค่าเช่าแต่ออกแรงในการดูแลอย่างเดียว 

นอกจากต่างจังหวัดเต่าบินมีแผนจะโกอินเตอร์ ไปเมืองนอกอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของฟอร์ท เวนดิ้ง ในการชงเครื่องดื่มให้ถูกปากคนแต่ละชาติตามไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้จะได้ประโยชน์จากการเป็นเครื่องที่ทำงานด้วย AI และมี Data บันทึกไว้จนสามารถนำผลมาวิเคราะห์ได้ไปเต็มๆ 

อย่างไรก็ตามสำหรับเราแล้วแพลนในอนาคตที่น่าสนใจที่สุด ไม่ใช่การขยายธุรกิจไปต่างประเทศครับ แต่เป็นการได้ยินว่าเต่าบินกำลังจะมีชานมไข่มุกขายต่างหาก (ฮา) 

“กำลังพยายามทำชานมไข่มุกกับน้ำปั่นอยู่ แต่ว่ายังไม่เสร็จดี เพราะมีรายละเอียดเยอะมากกก เราพัฒนาเมนูต่อไปเรื่อยๆ หยุดไม่ได้ เพราะไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนพี่จีนตามทัน น่ากลัวที่สุดเลย (หัวเราะ)”

ขอบคุณบทความจาก : https://urbancreature.co/taobin